สำนักวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จัดกิจกรรมอบรมหลักสูตร "Frontier public health personnel capacity development for preparedness future severe human health threat in the region" ภายใต้กองทุนพิเศษล้านช้าง-แม่โขง ประจำปี พ.ศ. 2566 โดยมีพิธีเปิดเมื่อวันจันทร์ที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 08.00 - 09.00 น. ณ ห้องประชุมประดู่แดง 1 อาคารพลเอกสำเภา ชูศรี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
.
โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นประธานในพิธี และรองศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย อภิเดชกุล อาจารย์ประจำสำนักวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพและผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศการวิจัยสุขภาพชนชาติพันธุ์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ
.
การอบรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการความร่วมมือระดับภูมิภาคที่มุ่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรสาธารณสุขในประเทศไทย พม่า ลาว และกัมพูชา ให้มีความพร้อมรับมือกับภัยคุกคามด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยนำบทเรียนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเศรษฐกิจอย่างรุนแรงทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาเป็นกรณีศึกษา
.
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาโปรแกรมฝึกอบรมเฉพาะทางสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและป้องกันโรค เสริมสร้างศักยภาพบุคลากรสาธารณสุขในการรับมือกับโรคอุบัติใหม่ และพัฒนาระบบเฝ้าระวังโรคที่มีประสิทธิภาพสำหรับภูมิภาค เพื่อใช้ในการแบ่งปันข้อมูลด้านสุขภาพที่จำเป็น
.
การอบรมดังกล่าวเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างบุคลากรสาธารณสุขจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคล้านช้าง-แม่โขง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นอกเหนือจากโควิด-19 แล้ว ยังมีโรคอื่นๆ เช่น ไข้ฝีดาษลิง โรคเมอร์ส ที่อาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชาชนในภูมิภาคนี้
.
การจัดอบรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่าย ทั้งคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ผู้เชี่ยวชาญจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข องค์การอนามัยโลก สถาบันปาสเตอร์ และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด รวมถึงบุคลากรสาธารณสุขจากประเทศพม่า ลาว และกัมพูชา นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ด้านต่างๆ อาทิ ด้านการพัฒนาวัคซีนและยารักษาโรค ด้านการควบคุมโรคและการใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ในการพยากรณ์การเกิดโรคระบาด
.
ผู้จัดคาดหวังว่าการอบรมนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์หลายประการ อาทิ การเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และแนวปฏิบัติที่ดี การพัฒนาทักษะและความรู้ของบุคลากรสาธารณสุข การสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศและภูมิภาค รวมถึงการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือในภูมิภาค ทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรสาธารณสุขให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาระบบเฝ้าระวังโรคที่มีประสิทธิภาพ การปกป้องชีวิตของประชาชนในประเทศสมาชิก การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และการส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสันติภาพในภูมิภาค